รวมวิธีดูแลผิวหน้าลดสิว จากเภสัชกรผู้เชี่ยวชาญด้านผิว

รวมวิธีดูแลผิวหน้าลดสิว จากเภสัชกรผู้เชี่ยวชาญด้านผิว เพื่อสุขภาพผิวที่ดี

รวมวิธีดูแลผิวหน้าลดสิว ปัญหาสิวและผิวมันเป็นปัญหาหลักที่หลายคนมักพบเจอ สาเหตุของการเกิดสิวมีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยภายใน เช่น กรรมพันธุ์ หรือฮอร์โมน หรือปัจจัยภายนอก เช่น แสงแดด มลภาวะ การเลือกใช้สกินแคร์หรือเครื่องสำอางที่ไม่เหมาะกับสภาพผิวหน้า ไลฟ์สไตล์ การใช้ชีวิต เป็นต้น ปัจจุบันมีวิธีมากมายที่จะช่วยแก้ปัญหาสิวนี้ได้ วันนี้ก็เลยรวบรวมข้อมูลการดูแลผิวหน้า และการป้องกันการเกิดสิวที่ถูกทาง เพื่อผลลัพธ์ที่ดีของการใช้ครีมรักษาสิวเพื่อเผยผิวที่ดูสุขภาพดี กลับมาอีกครั้ง

สิวเกิดจากอะไร?

เคยสงสัยไหมว่า อะไรทำให้เกิดสิว ทั้งๆ ที่เราทำความสะอาดผิวหน้าเป็นอย่างดี? แต่สิวยังคงเติบโตไม่หยุด “สิว” คือการอักเสบของหน่วยรูขุมขน นั่นคือการแต้มสิวคือรูขุมขนของเรา มีลักษณะเป็นจุดนูนเล็ก ๆ ทำให้ผิวหน้าไม่เรียบ อาจมีอาการอักเสบ ได้แก่ ปวด บวม แดง สิวเป็นเรื่องปกติในวัยรุ่น เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนและมักจะดีขึ้นหรือหายไปได้เองตามอายุที่มากขึ้น

รวมวิธีดูแลผิวหน้าลดสิว วิธีป้องกันและจัดการกับปัญหาสิวอย่างถูกวิธี

คงไม่มีใครอยากให้ผิวหน้าเป็นสิว รวมวิธีดูแลผิวหน้าลดสิว เพราะนอกจากจะทำให้เราหงุดหงิดรำคาญใจแล้ว ยังทำให้เราเสียความมั่นใจอีกด้วย รู้วิธีป้องกันและใช้ครีมรักษาสิวให้ถูกวิธี จะช่วยรักษาสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเห็นผลลัพธ์ที่ดี

วิธีที่ 1 : ดื่มน้ำ

ทุกคนควรดื่มน้ำสะอาด ให้เพียงพอในแต่ละวัน เพราะน้ำเป็นส่วนประกอบหลักของร่างกายรวมถึงผิวหนังของเราด้วย การดื่มน้ำให้เพียงพอช่วยให้ส่วนประกอบของผิวหนังทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นเราควรดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการในแต่ละวัน (ขึ้นอยู่กับเพศ น้ำหนักตัว) หรือเฉลี่ย 1.5 ลิตรขึ้นไป น้ำจะช่วยนำพาสารพิษที่ตกค้างในร่างกายให้ขับออกมาด้วย

วิธีที่ 2: อย่าเครียด

ความเครียดทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมน ที่สามารถกระตุ้นต่อมไขมันให้ผลิตน้ำมันออกมามากขึ้น จึงสังเกตได้ว่า คนที่เครียดบ่อย ๆ หรือเครียดโดยไม่รู้ตัว มักจะมีโอกาสเป็นสิวมากกว่า เพราะฉะนั้น เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว พึงมีจิตแจ่มใสอยู่เสมอ.

วิธีที่ 3 : ล้างหน้าให้ถูกต้อง

หลายคนมักเข้าใจว่าการล้างหน้าบ่อยๆ ในแต่ละวันนั้นดี เพราะผิวหน้าจะสะอาดอยู่เสมอ แต่นั่นจะสนับสนุนการผลิตน้ำมันเท่านั้น ทำให้หน้ามันมากขึ้น ซ้ำยังเสี่ยง ผิวแตก แห้ง ระคายเคืองอีกด้วย ล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น ก็เพียงพอแล้ว แต่ควรใส่ใจกับผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดด้วยว่าเหมาะกับผิวของเราหรือไม่

วิธีที่ 4 พักผ่อนให้เพียงพอ

ฟังดูง่าย แต่ก็แอบยากสำหรับใครหลายคน เพราะการนอนให้เพียงพอ คือ เข้านอนก่อน 22.00 น. นอนต่อเนื่องอย่างน้อย 7 ชั่วโมงต่อวัน สิ่งนี้จะช่วยให้ร่างกายซ่อมแซมและสร้างใหม่ กระบวนการต่างๆ ของร่างกายระหว่างการนอนหลับ การนอนไม่เพียงพอยังนำไปสู่การผลิตน้ำมันมากเกินไปอย่างผิดปกติอีกด้วย

วิธีที่ 5: ปกป้องผิวจากแสงแดด

แสงแดดนอกจากจะทำลายผิวทำให้เกิดริ้วรอยแล้ว และความหมองคล้ำ เพื่อกระตุ้นให้ผิวผลิตน้ำมันออกมามากขึ้น ทำให้หน้ามันได้ เมื่อหน้ามันมีโอกาสเกิดสิวได้ และการใช้ครีมกันแดดเป็นประจำยังช่วยลดรอยแดงและรอยดำจากสิวได้อีกด้วย

วิธีที่ 6 : เลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม

การเลือกผลิตภัณฑ์ป้องกันและดูแลผิวที่เป็นสิว ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ จากผู้ผลิตที่เชื่อถือได้ ปัจจุบันมีสินค้ามากมาย นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ดังนั้นเราจึงควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิวและปัญหาของตัวเอง เนื่องจากสภาพผิวของแต่ละคนแตกต่างกัน ผิวที่มีแนวโน้มเป็นสิวจึงมีความสำคัญ ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่แก้ปัญหาสิวอย่างอ่อนโยน เป็นสูตร Oil-free และไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน (ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน)

วิธีที่ 7: การรักษาก่อนการบำรุง

หลายๆ คนที่กำลังเป็นสิวกังวลใจ อยากรีบบำรุงผิวก่อนสิวหาย ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง เพราะสิว ควรรักษาด้วยครีมรักษาสิวให้หายก่อน แล้วค่อยๆหาผลิตภัณฑ์มาบำรุงผิว ระหว่างรักษา ควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ ที่มีน้ำมันเป็นส่วนประกอบ เช่น Coco Butter Peppermint Oil เพราะสารเหล่านี้จะทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังได้ง่าย และรูขุมขนอุดตันมากขึ้น

วิธีที่ 8 งดใช้กระดาษซับมัน

หลังจากใช้กระดาษซับมัน เราจะรู้สึกว่าความมันบนใบหน้าของเราลดลงทันที แต่อีกไม่นานหน้าของเราก็จะกลับมาเงาใสอีกครั้ง นี่เป็นเพราะการใช้กระดาษซับมัน ซึ่งจะกระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมามากกว่าปกติ ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการใช้กระดาษซับมัน แล้วหันมาใช้กระดาษเช็ดหน้าซับความมันส่วนเกินแทน หรือ เลือกฉีดสเปรย์น้ำแร่ แล้วทิ้งไว้ 30 นาที แล้วใช้ทิชชู่ซับเพื่อเพิ่มความสดชื่นให้ใบหน้า

วิธีที่ 9 : ยาคุมกำเนิด

ยาคุมกำเนิดที่มีฮอร์โมนเพศหญิงเอสโตรเจนและฮอร์โมนโปรเจสตินสามารถช่วยรักษาสิวได้ เพราะยาจะไปลดระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนแอนโดรเจนลง ทำให้การผลิตไขมันจากต่อมไขมันใต้ผิวหนังลดลง ซึ่งจะช่วยลดการเกิดสิวได้ แต่ก่อนตัดสินใจรักษาสิวด้วยยาคุมกำเนิดควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อน

วิธีที่ 10 : เลือกอาหาร

ทำไมเรากินช็อกโกแลตแล้วสิวขึ้น? แต่เพื่อนกินแล้วสิวไม่ขึ้น สำหรับผู้ที่มีปัญหาสิวต้องสังเกตตัวเองว่ากินอาหารประเภทไหนที่ทำให้เกิดปัญหาสิว ฉันต้องหลีกเลี่ยงอาหารเหล่านั้น ซึ่งจะไปกระตุ้นกระบวนการอักเสบในเซลล์ผิวหนัง ทำให้เกิดปัญหาสิวได้ อาหารที่มักก่อให้เกิดปัญหาสิว ได้แก่ ของทอด อาหารมันๆ หรือผลิตภัณฑ์จากนมแปรรูป

วิธีที่ 11: หลีกเลี่ยงและปกป้องผิวจากมลภาวะ

การวิจัยยืนยันว่ามลพิษสามารถกระตุ้นการผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น ทำให้เกิดปัญหาสิวตามมาได้ ดังนั้นเราจึงต้องหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับมลพิษ และปกป้องผิวด้วยผลิตภัณฑ์ที่ปกป้องผิวจากมลภาวะ ด้วยกลไกต่างๆ เช่น ต่อต้านปฏิกิริยาการทำลายผิวจากมลภาวะ หรือ ผลิตภัณฑ์บางชนิดสามารถลดการเกาะตัวของมลภาวะได้ ก็จะช่วยลดการเกิดสิวที่เกิดจากมลภาวะได้

วิธีที่ 12 : ระวังการใช้ยาต้านแบคทีเรีย

การใช้ยาต้านแบคทีเรียทั้งแบบกินและแบบทาสำหรับสิวอักเสบ หากใช้ต่อเนื่องเป็นเวลานานอาจทำให้เกิดปัญหาการดื้อยาได้ ดังนั้นขอแนะนำให้คุณปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยาต้านแบคทีเรีย ควรใช้น้ำยาฆ่าเชื้อชนิดทาเฉพาะที่ร่วมกับเบนโซอิลเปอร์ออกไซด์เพื่อแก้ปัญหาการดื้อยาของแบคทีเรียชนิดทา

วิธีที่ 13 : เลือกหน้ากากเพื่อลด MASKNE

ด้วยสถานการณ์โควิดในปัจจุบัน ทำให้หน้ากากอนามัยเป็นอีกสิ่งสำคัญและจำเป็นในชีวิต แต่การใส่หน้ากากอนามัยอาจทำให้ใครหลายคนต้องเจอกับปัญหาสิว ในการดูแลปัญหาสิวที่เกิดจากการสวมหน้ากากอนามัย หรือที่เรียกว่า “หน้ากากอนามัย (MASKNE)” ควรเลือกหน้ากากอนามัยที่ทำจากวัสดุอ่อนโยน เช่น หากเป็นหน้ากากผ้า ให้เลือกหน้ากากที่ทำจากเส้นใยธรรมชาติ เช่น ผ้าฝ้ายหรือผ้าไหม และสวมหน้ากากที่พอดีกับใบหน้าเพื่อลดการระคายเคืองที่เกิดจากการสวมหน้ากากที่ก่อให้เกิดสิว

วิธีที่ 14: อย่าจับหน้าถ้าไม่จำเป็น

สำหรับผิวที่เป็นสิวง่าย การสัมผัสใบหน้าเท่ากับการสะกิดปัญหาสิว ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้าไม่ว่าจะจากมือหรือจากโทรศัพท์มือถือที่อาจมีสิ่งสกปรกและแบคทีเรียอยู่มาก ส่งผลให้เกิดปัญหาสิวตามมาอีกด้วย

วิธีที่ 15: ไม่บีบ+แคะ+แกะสิว

ยากที่จะต้านทานการแคะ แกะ เกา สิวได้เสมอ แต่การกระทำดังกล่าวนอกจากจะไม่ช่วยลดสิวแล้ว อีกครั้งมันระคายเคือง กระตุ้นให้อักเสบรุนแรงขึ้น รักษายาก บางกรณีอักเสบทั่วหน้า แม้จะรักษาหาย ก็ยังทิ้งรอยดำ รอยแดง รอยสิว ไว้ให้ดูไม่ต่างกัน ดังนั้นควรสัมผัสใบหน้าเมื่อจำเป็นเท่านั้น และระวังการใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆกับผิวอย่างอ่อนโยน

บทสรุป

ปัญหาของสิวเป็นสิ่งที่เรียกว่าสิวเลยสำหรับใครหลายคน รวมวิธีดูแลผิวหน้าลดสิว นอกจากการดูแลและป้องกันอย่างถูกต้องแล้ว ปัจจัยสำคัญคือการเลือกผลิตภัณฑ์ที่สามารถดูแลปัญหาได้อย่างตรงจุด เช่น ผลิตภัณฑ์จากแบรนด์เวชสำอางที่แพทย์ผิวหนังทั่วโลกแนะนำ ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดได้รับการทดสอบทางการแพทย์ เพื่อให้ผู้ใช้ห่างไกลจากปัญหาสิว